|
รายละเอียด : |
|
ข่าวสมาคมธุรกิจหยอดเหรียญอัตโนมัติทุกชนิด
เพิกถอนสิทธิบัตร.....เพราะไม่ใหม่!?
‘หลายคนได้รับอนุสิทธิบัตร/สิทธิบัตรจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ก็คงรู้สึกดีใจ เพราะการยื่นขอรับอนุสทธิบัตร/สิทธิบัตรค่อนข้างจะใช้เวลานาน ไม่รวดเร็วทันใจเหมือนจดทะเบียนสมรส แต่การได้รับอนุสิทธิบัตร/สิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว ก็มิได้หมายความว่าจะไม่สามารถถูกเพิกถอนได้ ซึ่งตัวอย่างจะเล่าให้ฟังเป็นคดีที่น่าสนใจอ้างอิงจากคดีพิพากษาศาลฎีกาที่ 4518/2550
เรื่องของเรื่อง นายสดใส ซึ่งก็สดใสสมชื่อ อยู่ว่าง ๆ ก็คิดประดิษฐ์โน้น ประดิษย์นี้ตามประสาคนมีปัญญา อยู่ไปอยู่มาวันหนึ่งประมาณปี 2537 ก็เกิดไอเดียบรรเจิดได้คิดค้นเทปโฟมกาวสองหน้า ถ้าเก็บไว้ใช้คนเดียวก็ไม่ได้ทำให้ร่ำรวยขึ้น ก็เลยผลิตและออกจำหน่ายในปีถัดไปคือ ปี 2538 หลังจากนั้นในปี 2539 ก็เลยได้มีการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท โดยนายสดใสเองก็เป็นกรรมการบริษัทด้วย ซึ้งบริษัทที่จัดตั้งขึ้นนี้ก็ได้นำผลิตภัณฑ์เทปโฟมกาวสองหน้าที่นายสดใสคิดค้นออกจำหน่าย
กระทั่งปี 2547 ปรากฎว่าบริษัทนิด-หน่อยก็ได้ผลิตสินค้าเทปโฟมกาวสองหน้าชนิดเดียวกันกับนายสดใสออกมาวางขาย นายสดใสทราบเข้าก็เดือด รีบส่งจดหมายแจ้งให้บรัท นิด-หน่อยยุติการทำละเมิดสินค้าของนายสดใส แต่บริษัทนิด-หน่อยไม่ได้นิดหน่อยเหมือนชื่อ ถือว่าเส้นใหญ่ยังคงเพิกเฉยจำหน่ายสินค้าต่อ
หลังจากนั้นนายสดใสก็รีบดำเนินการยื่นคำขอรับอนุสิทธิบัตรและได้รับอนุสิทธิบัตรเมื่อวันที่ 30 สิงหาคา 2548 จากนั้นจึงได้มาดำเนินคดีฟ้องบริษัทนิด-หน่อยต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางโดยไม่รอช้า
หลังจากที่ศาลท่านพิจารณาอย่างละเอียด ท่านก็ฟันธงว่า
นายสดใสได้จำหน่ายเทปโฟมกาวสองหน้ามาตั้งแต่ปี 2538 ก่อนวันที่นายสดใสยื่นคำขอรับอนุสิทธิบัตร เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2547 แล้วการประดิษฐ์ดังกล่าวของนายสดใสจึงมีหรือใช้อยู่แล้วในราชอาณาจักรก่อนวันขอรับสิทธิบัตร และการที่นายสดใสจำหน่ายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดย่อมเป็นการจำหน่ายที่แพร่หลาย และถือว่าเป็นการเปิดเผยสาระสำคัญและรายละเอียดของการประดิษฐ์ต่อสาธารณชนด้วยประการใดๆ ด้ายการประดิษฐ์ของนายบสดใสจึงเป็นงานที่ปรากฎอยู่แล้ว
ถึงแม้นายสดใสจะเป็นผู้ทำให้เทปกาวสองหน้านั้นมีหรือใช้แพร่หลาย และเป็นผู้เปิดเผยสาระสำคญหรือ รายละเอียดของการประดิษฐ์นั้นมีหรือใช้แพร่หลาย และเป็นผู้เปิดเผยสาระสำคัญหรือรายละเอียดของการประดิษฐ์นั่นเองดังที่นายสดใสอุทธรณ์ แต่ก็เป็นการกระทำเกินกว่ากำหนดเวลาสิบสองเดือนก่อนนายสดใสขอรับอนุสิทธิบัตร กรณีไม่เข้าข้อยกเว้น ที่จะไม่ถือว่าเป็นการทำให้แพร่หลายและเปิดเผยสาระสำคัญหรือรายละเอียดการประดิษฐ์ก่อนวันขอรับอนุสิทธิบัตร
เทปโฟมกาวสองหน้าซึ่งเป็นการประดิษฐ์ของนายสดใสจึงไม่เป็นการประดิษฐ์ขึ้นใหม่ตาม พ.ร.บ.สิทธิบัตร แม้นายสดใสได้รับอนุสิทธิบัตรการประดิษฐ์ก็เป็นอนุสิทธิบัตรที่ได้ออกให้โดยมิชอบ ถือว่าอนุสิทธิบัตรนั้นไม่สมบูรณ์ ไม่ได้รับความคุ้มครองสิทธิตามอนุสิทธิบัตร
นายสดใสไม่อาจกล่าวอ้างได้ว่าบริษัทนิด-หน่อยฝ่าฝืนสิทธิเด็ดขาดของนายสดใสผู้ทรงอนุสิทธิบัตรและไม่อาจใช้มาตรการบังคับบริษัทนิด-หน่อยตามสิทธิของอนุสิทธิบัตรนั้น
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางไต่สวนมูลฟ้องแล้วจึงพิพากษายกฟ้อง
หลังจากนายสดใสทรายคำพิพากษาก็แทบจะหงานหลังตกเก้าอี้ หลังจากที่ดมยาดมก็มีกลังวังชาขึ้นมา
ก็ยื่อนอุธรณ์ต่อศาลฎีกา กลายเป็นนิยายเรื่องยาวแทนที่จะเป็นเรื่องสั้นเช้านี้
คดีมีปัญหตามอุทธรณ์ของนายสดใสว่าอนุสิทธิบัตรการประดิษฐ์ของนายสดใสมีความสมบูรณ์หรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า การประดิษฐ์ที่จะขอรับอนุสิทธิบัตรได้นั้นพระราชบัญญัติสิทธิบัตร บัญญัติใว้ ต้องเป็นการประดิษฐ์ขึ้นใหม่และเป็นการประดิษฐ์ที่สามารถประยุกต์ในทางอุตสาหกรรมได้
ซึ่งปัญหาความใหม่นั้น การประดิษฐ์ขึ้นใหม่ได้แก่ การประดิษฐ์ที่ไม่เป็นงานที่ปรากฏอยู่แล้ว และยังบัญญัติว่า งานที่ปรากฎอยู่แล้วให้ความหมายถึงการประดิษฐ์ดังต่อไปนี้
1) การประดิษฐ์ที่มีหรือใช้แพร่หลายอยู่แล้วในราชอาณาจักรก่อนวันขอรับสิทธิบัตร
2) การประดิษฐ์ที่ได้มีการเปิดเผยสาระสำคัญหรือรายละเอียดในเอกสารหรือสั่งพิมพ์ที่ได้เผยแพร่อยแล้วไม่ว่าในหรือนอกราชอาณาจักรก่อนวันขอรับสิทธิบัตร และไม่ว่าการเปิดเผยนั้นจะกระทำโดยเอกสาร สิ่งพมพ์ การนำออกแสดง หรือการเปิดเผยต่อสาธารณชนด้วยประการใดๆ
นอกจากนี้ยังบัญญัติความตอนหนึ่งว่า การเปิดเผยสาระสำคัญหรือรายละเอียดโดยผู้ประดิษฐ์ภายในสิบสองเดือนก่อนที่จะมีการขอรับสิทธิบัตรมิให้ถือว่าเป้นการเปิดเผยสาระสำคัญหรือรายละเอียด(2)
ซึ่งข้อความข้างต้นนี้ กฎหมายได้ให้นำมาใช้กับอนุสิทธิบัตรด้วย
จากข้อเท็จจริงปรากฎว่า นายสดใสจำหน่ายเทปโฟมกาวสองหน้ามาตั้งแต่ปี 2538 ก่อนวันที่นายสดใสยื่นคำขอรับอรุสิทธิบัตรเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2547 แล้ว การประดิษฐ์ดังกล่าวของนายสดใสจึงมีหรือใช้อยู่แล้วในราชอาณาจักรก่อนวันขอรับอนุสิทธิบัตร และการที่นายสดใสจำหน่ายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดรวมทั้งจำหน่ายให้แก่บริษัทต่างๆที่เป็นลูกค้าของนายสดใส ย่อมเป็นการจำหน่ายแพร่หลายตามที่กฎหมายบัญญัติใว้ ดังกล่าว และถือว่าเป็นการเปิดเผยสาระสำคัญหรือรายละเอียดของการประดิษฐ์ต่อสาธารณชนด้วยประการใด ด้วย การประดิษฐ์ของนายสดใสจึงเป็นงานที่ปรากฏอยู่แล้วถึงแม้นายสดใสจะเป็นผู้ทำให้เทปโฟมกาวสองหน้านั้นมีหรือใช้แพร่หลายและเป็นผู้เปิดเผยสาระสำคัญหรือรายละเอียดของการประดิษฐ์นั้นเองที่นายสดใสอุทธรณ์ แต่ก็เป็นการกระทำเกินกว่า
กำหนดเวลาสิบสองเดือนก่อนนายสดใสขอรับอนุสิทธิบัตร กรณีจึงเข้าข้อยกเว้นตาม พรบ.สิทธิบัตรที่จะไม่ถือว่าเป็นการกระทำที่แพร่หลายและเปิดเผยสาระสำคัญหรือรายละเอียดการประดิษฐ์ก่อนวันขอรับอนุสิทธิบัตรเทปโฟมกาวสองหน้าซึ่งเป็นการประดิษฐ์ของนายสดใสจึงไม่เป็นการประดิษฐ์ขึ้นใหม่
แม้นายสดใสได้รับอนุสิทธิบัตรการประดิษฐ์ก็เป็นอนุสิทธิที่ได้ออกให้โดยไม่ชอบ ถือว่าอนุสิทธิบัตรนั้นไม่สมบูรณ์ ไม่ได้รับความคุ้มครองสิทธิตามอนุสิทธิบัตร
นายสดใสไม่อาจกล่าวอ้างได้ว่าบริษัทนิด-หน่อย ฝ่าฝืนอนุสิทธิบัตรนั้น ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศพิจารณาแล้วเห็นว่ากรอุทธรณ์ของนายสดใสฟังไม่ขึ้นจึงพิพากษายกฟ้อง
ผลสุดท้ายนายสดใสที่ไม่สดใสสมชื่อแล้วก็ต้องกลับไปดมยาดมต่อด้วยความช้ำใจพร้อม ส่วนบริษัทนิด-หน่อยก็ได้เฮกลับไปฉลองชัย ผลิตขายเทปโฟมกาวสองหน้าร่ำรวยเป็นเศรษฐีต่อไป
สำหรับคดีนี้ก็เป็นอุทาหรณ์เตือนใจสำหรับผู้ประดิษฐ์ ที่เมื่อประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆขึ้นมาก็ควรจะยื่นคำขอคุ้มครองอนุสิธิบัตรหรือสิทธิบัตรก่อนที่จะเปิดเผยหรือผลิตจำหน่าย เพราะถ้าได้เปิดเผยผ่านไปเป็นเวลาเหิน 1 ปีการประดิษฐ์นั้นก็จะขาดความใหม่ทันที
ถึงแม้กฎหมายจะมีข้อยกเว้น ว่าการเปิดเผยสาระสำคัญหรือรายละเอียดโดยผู้ประดิษฐ์ภายใน 12 เดือน ก่อนที่จะมีการขอรับสิธิบัตรมิให้ถือว่าเป็นการเปิดเผยสาระสำคัญหรือรายละเอียดผู้เขียนก็อยากจะแนะนำให้ยื่นคำขอรับความคุ้มครองด้านทรัพย์สินทางปัญญาก่อนที่จะนำผลงานเปิดเผยต่อสาธารณชนเพราะถ้านักวิจัยนำผลงานออกแสดงในงานประชุมต่างๆ และมีผู้เห็นผลงานและนำไปผลิตสินค้าออกจำหน่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่มีเครื่องจักรและกำลังผลิตที่พร้อมแค่ได้แนวความคิดไปก็อาจจะผลิตสินค้ามาวางจำหน่ายในท้องตลาดภายใน1-2 สัปดาห์ก็ได้ในขณะที่นักวิจัยที่ยังใจเย็นอยู่ว่ามีเวลาอีก 12 เดือน และเมื่อยื่นคำขอรับอณุสิธิบัตรหรือสิทธิบัตรไปยังกรมทรัพย์สินทางปัญญา คำขอก็อาจถูกปฏิเสธได้ว่าเป็นการประดิษฐ์ที่ไม่ใหม่เนื่องจากเป็นการประดิษฐ์ที่มีหรือใช้แพร่หลายอยู่แล้วนาชอาณาจักรก่อนวันขอรับอนุสิทธิบัตร/สิทธิบัตร
ที่เขียนมาก็อยากจะฝากเรื่องนี้เป็นข้อคิดและอุทาหรณ์สำหรับนักวิจัยและนักประดิษฐ์ทั้งหลายจำด้ไม่ต้องมาเจ็บใจและไม่พลาดโอกาศเป็นเศรษฐี
อ้างอิงจาก คดีพิพากษาศาลฎีกาที่4518/2550
รับสมัครสมาชิกสมาคม
: ณ ที่ทำการสมาคมธุรกิจหยอดเหรียญอัตโนมัติทุกชนิด ทั่วประเทศ
: สิทธิที่สมาชิกจะได้รับคือ
1.ได้รับการดูแลจากสมาคมเรื่องการซ่อม, ดูแล, บำรุงรักษาเครื่อง และให้คำปรึกษาด้านเทคนิคในการซ่อม
เครื่องทาง Call Center ฟรี
2.ได้รับสิทธิในการซื้ออะไหล่จากต่างประเทศได้ในราคาส่ง โดยมีส่วนลด 10-20%
3.ได้รับคำปรึกษากฎหมายลิขสิทธิ์การค้าระหว่างประเทศ ระบบ PCT กฎหมายสนธิสัญญาระหว่างประเทศทั่วโลกฟรี, กฎหมายพลังงานกรมธุรกิจพลังงานและกฎหมายน้ำมันช่างตวงวัด
4.ไดัรับการประสานงานระหว่าสมาชิกสมาคมธุรกิจหยอดเหรียญอัตโนมัติทุกชนิดกับสำนักงาน สคบ. เมื่อผู้ผลิตหรือผู้ใช้บริการเกิดปัญหาขัดแย้งกัน
: ค่าสมัครสมาชิกสมาคมรายปี หรือ6เดือน วันละ6บาทเท่านั้น รายได้เข้าสมาคม
สมัครข่าวสมาคมธุรกิจหยอดเหรียญอัตโนมัติทุกชนิด
เพียงกด *412334402 และโทรออก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1258362407 |
|
เว็บไซต์เพิ่มเติม : |
www.thaiaab.com |
|
ต้องการ : |
ประกาศ |
ราคา : |
0 บาท |
|
วิธีส่งสินค้า : |
|
สภาพสินค้า : |
|
| |
|
|
|
Member Login
Help
